6เมืองโบราณใต้น้ำสุดลึกลับ
บนพื้นดินในโลกปัจจุบันคงมีน้อยที่ที่มนุษย์เรายังเข้าไม่ถึง ด้วยเทคโนโลยีมากมาย ทำให้เราสามารถเขาไปถึงที่อันตรายต่างๆได้ แต่ในทางกลับกัน โลกใต้น้ำยังคงเป็นดินแดนลับแลสำหรับมนุษย์ แม้ว่าเทคโนโลยีปัจจุบันจะก้าวหน้าไปมาก แต่เรายังรู้เรื่องโลกใต้น้ำน้อยเหลือเกิน
และคุณเชื่อหรือไม่ ในดินแดนลับแลใต้บาดาลเหล่านี้ มีเมืองมนุษย์หลับไหลอยู่ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม อาจจะเป็นแผ่นดินไหว ภูเขาไฟระเบิด หรือน้ำท่วมก็ตามแต่ สุดท้ายเมืองเหล่านี้ก็ได้จมลงไปอยู่ใต้ท้องทะเล รอวันที่เราจะไปค้นพบอยู่ ไปชมกันเลย
1. เมืองซือเฉิงหรือเมืองสิงโต เมืองโบราณใต้น้ำที่ถูกลืมในประเทศจีน
เมืองโบราณแห่งนี้ตั้งอยู่ลึกลงไป 40 เมตรในทะเลสาบเฉียนเต่า เนื่องจากสถาปัตยกรรมอันงดงาม ทำให้ที่นี่กลายเป็นเป้าหมายของนักประดาน้ำจากทั่วโลก
ทะเลสาบเฉียนเต่าแห่งนี้ถูกล้อมรอบไปด้วยเทือกเขาอู๋ซือหรือเทือกเขาห้าสิงโต และชื่อเมืองซือเฉิงก็ได้รับอิทธิพลมาจากที่ตั้งของมันด้วยเช่นกัน เมืองซื่อเฉิงแห่งนี้เคยเจริญรุ่งเรืองอย่างมากในยุคราชวงค์ฮั่นตะวันออก ราวๆ ค.ศ.25 ถึง 200 และเป็นศูนย์กลางของมณฑลเจ้อเจียงอีกด้วย ว่ากันว่าเมืองนี้มีขนาดประมาณ 62 สนามฟุตบอลเลยทีเดียว!!
สาเหตุที่เมืองนี้จมลงใต้น้ำก็เพราะว่า ทางรัฐบาลจีนได้สร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำซินอันซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองนี้ในปี ค.ศ 1959 ทำให้เมืองนี้ค่อยๆจมลงสู่ใต้น้ำ และเลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คน
2. พระราชวังคลีโอพัตรา ในประเทศอียิปต์
คุณสามารถพบซากโบราณสถานแห่งนี้ได้ ในบริเวณชายฝั่งของเมืองอเล็กซานดรา ประเทศอียิปต์ พระราชวังแห่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของเมืองเมื่อประมาณ 2000 ปีก่อน แต่เกิดเหตุแผ่นดินไหว ทำให้ส่วนนี้ของเมืองจมลงสู่ทะเลเมื่อ 1500 ปีก่อน ปัจจุบัน มีโบราณวัตถุกว่า 140 ชิ้นถูกกู้ขึ้นไปโดยนักโบราณคดี
ในอนาคต ทางการของอียิปต์มีแผนจะสร้างพิพิธภัณฑ์ใต้น้ำนบริเวณที่แห่งนี้ด้วย เก็บเงินรอไปชมกันได้เลย
3. เมืองใต้น้ำ Baiae ในประเทศอิตาลี
ในอดีต เมืองแห่งนี้เคยเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจของเหล่าผู้มีฐานะและมีชื่อเสียง จนกระทั่งเมื่อ 1500 ปีก่อน ระดับน้ำก็ค่อยๆเพิ่มสูงขึ้นจนทำให้เมืองนี้อยู่ใต้น้ำโดยสมบูรณ์
ปัจจุบัน โบราณสถานแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของนักประดาน้ำ ผู้อยากเห็นซากอารยธรรมโบราณแห่งนี้
ปัจจุบัน โบราณสถานแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวของนักประดาน้ำ ผู้อยากเห็นซากอารยธรรมโบราณแห่งนี้
เราจะเห็นได้ว่า มีรูปปั้นตัวละครในเทพนิยายกรีกโรมันมากมาย อย่างเช่นโอดีซีอุสเป็นต้น
4. เมือง Port Royal ประเทศจาไมก้า
เมืองนี้ถือว่าเป็นเมืองที่บาปที่สุดแห่งหนึ่งที่โลกเคยมีมา เพราะมันเคยเป็นเมืองท่าของเหล่าโจรสลัด แน่นอน มันย่อมเต็มไปด้วยอบายมุขและสิ่งผิดกฎหมายมากมาย และนอกจากความบาปแล้ว เมืองนี้ยังเคยมีอุบัติภัยทางธรรมชาติที่โหดร้ายที่สุดครั้งหนึ่งในโลกที่เคยเกิดขึ้นมาอีกด้วย
ในปี 1692 เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรง และเกิดคลื่นยักษ์ซึนามิตามมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตทันทีกว่า 2,000 คน และส่วนหนึ่งของเมือง ก็จมลงสู่ใต้น้ำในทันที
5. นครทวารกะ ดินแดนของพระกฤษณะ
ถ้าใครเคยอ่านเรื่องศึกมหาภารตะ จะจำได้ว่าเมืองของพระกฤษณะซึ่งเป็นร่างอวตารร่างหนึ่งของพระนารายณ์ มีชื่อว่านครทวารกะ เมืองนี้ถือว่ามีความสำคัญต่อผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูอย่างมาก เพราะว่าถือว่าเป็นเมืองในตำนาน ที่ชาวฮินดูทุกคนควรไปสักการะ และลึกลงไปในอ่าวกว่า 40 เมตร คุณจะได้พบกับหลักฐานที่แสดงให้เห็นถึงความรุ่งเรืองของเมืองแห่งนี้เมื่อครั้งอดีต
6. ปิรามิดโยนากุนิจิม่าอันแสนลึกลับ ในประเทศญี่ปุ่น
ปิรามิดแห่งนี้ดึงดูดนักประดาน้ำจำนวนมากจากทั่วโลก ให้มาสำรวจทุกๆปี และยังคงเป็นที่ถกเถียงกันว่า ปิรามิดนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ หรือมนุษย์สร้างขึ้นมา โดยมันมีอายุถึงราว 12,000 ปี