ชาเลนเจอร์ ดีป จุดที่ลึกที่สุดในโลก
ขณะที่ผู้คนนับพันสามารถไต่พิชิตยอดเขา เอเวอเรสต์ จุดสูงสุดของโลกได้ แต่มีมนุษย์เพียง 2 คนที่เคยดำดิ่งสัมผัสจุดที่ลึกที่สุดในโลก .. ชาเลนเจอร์ ดีป จุดที่ลึกที่สุดในโลก ร่องลึกมหาสมุทรมาเรียนา ห่างไปทางตะวันออกของฟิลิปปินส์
– จุดที่ว่าคือ ชาเลนเจอร์ ดีป (Challenger Deep)?อยู่ในมหาสมุทรแปซิฟิกที่เรียกว่า มาเรียนา เทรนช์ (Mariana Trench) หรือ ร่องลึกมหาสมุทรมาเรียนา ห่างไปทางตะวันออกของฟิลิปปินส์ประมาณ 200 กิโลเมตร ร่องลึกแห่งนี้มีรูปคล้ายพระจันทร์เสี้ยว เหมือนเป็นรอยแผลของโลก
– แนวยาวของเทรนช์วัดได้ 2,500 กิโลเมตร และกว้าง 69 กิโลเมตร จุดที่ลึกที่สุดคือชาเลนเจอร์ ดีป มีความลึก 11 กิโลเมตร ถ้าเทียบกับสถานที่บนโลก ที่แห่งนี้จะมีขนาดความใหญ่กว่าพื้นที่แกรนด์แคนยอนถึง 120 เท่า และสูงกว่ายอดเขาเอเวอเรสต์ถึง 1.6 กิโลเมตร
– ร่องลึกมหาสมุทรแห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของพื้นทะเลที่แยกยาว มาจากแผ่นเปลือกโลก 2 แผ่นมุดเข้าหากัน จนเกิดการปะทะ และกลายเป็นรอยแยกใต้มหาสมุทร
– ความลึกของมาเรียนาเทรนช์ มีการวัดครั้งแรกเมื่อปี 1875 โดยเรือรบหลวงแห่งสหราชอาณาจักร เอช เอ็ม เอส ชาเลนเจอร์ (H.M.S. Challenger) ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ประจำเรือวัดความลึกได้ที่ 4,475 ฟาธอม (ประมาณ 8 กิโลเมตร)
– จากนั้นในปี 1951 เรือ เอช เอ็ม เอส ชาเลนเจอร์ ทู (H.M.S. Challenger II) ก็กลับมาวัดใหม่ โดยใช้การหยั่งจากการสะท้อนของเสียง วัดความลึกได้ประมาณ 11 กิโลเมตร
-พื้นที่ส่วนใหญ่ของมาเรียนาเทรนช์เป็นเขตป้องกันของสหรัฐอเมริกา ส่วนหนึ่งของอนุสรณ์สถานทางทะเล (Marianas Trench Marine National Monument) ซึ่งในปี 2009 ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้ประกาศอนุญาตให้เข้ามาดำเนินการวิจัยได้
แต่ในส่วนของชาเลนเจอร์ ดีปเป็นเขตปกครองของประเทศไมโครซีเนีย (Federated States of Micronesia) ที่ทีมสำรวจจุดลึกสุดในโลก ต้องขออนุญาตทำงานวิจัยผ่านหน่วยงานรัฐบาลของไมโครซีเนียก่อน
เจมส์ คาเมรอน ได้ใช้เรือดำน้ำที่มีชื่อว่า ดีพซี ชาเลนเจอร์ ดำดิ่งลงไปเพื่อเก็บข้อมูลของทุุกสิ่งอย่างที่อยู่ใต้ท้องทะเลลึก เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการวิจัยทางวิทยาศาตร์ ทั้งยังถ่ายภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว โดยได้ใช้เวลาวนเวียนอยู่กว่า 2 ชั่วโมง และอีก 1 ชั่วโมง ณ จุดลึกที่สุดที่แสงแดดไม่อาจส่องถึง น้ำทะเลเย็นจัด อุณภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง และแรงกดจากน้ำทะเลมากกว่าบนพื้นผิวถึง 1,000 เท่า
การลงไปยังจุดชาเลนเจอร์ ดีพ ของ เจมส์ คาเมรอน ในครั้งนี้ถือว่าเป็นมนุษย์โลกคนที่ 3 ที่ทำได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องย้อนเวลากลับไปเกือบ 50 ปี จากเรือสำรวจน้ำลึกของกองทัพสหรัฐนามว่า ทรีเอสต์ ที่เคยดำดิ่งลงไปยังจุดลึกที่สุดนี้เพื่อสำรวจในครั้งแรก ด้วยทหารเรือ 2 นาย แต่ก็ไม่สามารถใช้เวลาอยู่ได้นานขนาดนี้ ซึ่งในครั้งนั้นใช้เวลาในการลงไปเพียง 20 นาที เท่านั้น
นอกเหนือจากประโยชน์ในงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ร่วมมือกับ เนชั่ลแนล จีโอกราฟิก สิ่งที่หลายคนคาดหวังสำหรับการดำดิ่งลงไปของ เจมส์ คาเมรอน ในครั้งนี้คือหวังว่าเขาจะได้วัตถุดิบชั้นดี นำมาสร้างภาพยนตร์คุณภาพมาให้เราได้รับชมกันในอนาคตอีกต่อไป เช่นเดียวกันกับการดำดิ่งลงน้ำลึก 30 กว่าครั้ง ของเขาก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นการหาข้อมูลก่อนที่จะสร้างภาพยนตร์อย่างไททานิคขึ้นมา