ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันอังคารที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2563

สยองทะเลสาบ เมดูซ่า


สยองขาสั่นรัว!!ทะเลสาบ "เมดูซ่า" แปลกสุดในโลก ปลิดลมหายใจสิ่งมีชีวิตในเวลาเพียงไม่กี่วินาที ด้วยเหตุผลที่ทำเอาสะพรึงแบบนี้ 

ที่สุดของที่สุดทะเลสาบที่แปลกที่สุดในโลก "ทะเลสาบเนตรอน" ถูกจัดอันดับโดยนิตยสารแทรเวลแอนด์ลีเชอร์ ให้ติดอันดับที่หนึ่งในบรรดาทะเลสาบแปลกที่สุดในโลก แถมยังได้ฉายาว่า "ทะเลสาบเมดูซ่า" เพราะมีเกลือเนตรอนสูงมาก หากมีสิ่งมีชีวิตชนิดใดตกลงไปในน้ำก็จะมีสภาพแห้งกรังและแข็งเหมือนถูกแช่งเอาไว้

ทะเลสาบเนตรอน เป็นทะเลสาบน้ำเค็มขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในทวีปแอฟริกา ทางตอนเหนือของประเทศแทนซาเนีย ใกล้กับพรมแดนประเทศเคนยา บริเวณฝั่งตะวันออกของหุบเขารอยเลื่อน อีสต์ แอฟริกัน ริฟท์ (East African Rift) และได้รับการกำหนดให้เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญในระดับนานาชาติ ตามอนุสัญญาแรมซาร์ 

น้ำในทะเลสาบเนตรอนไหลมาจากแม่น้ำเซาเธิร์น อีวาโซ กิโร (Southern Ewaso Ng’iro) ของประเทศเคนยา ซึ่งไหลผ่านธารน้ำพุร้อนที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุก่อนจะมารวมกันที่ทะเลสาบเนตรอน

สีแดงเข้มของทะเลสาบนั้นจะเกิดขึ้นหลังจากที่น้ำระเหยอย่างรวดเร็วในช่วงฤดูแล้ง...
จุลินทรีย์ขนาดจิ๋วจำพวกฮาโลไฟล โดยเฉพาะแบคทีเรียที่ชื่อ ไซยาโนแบคทีเรีย จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว

 พวกมันสามารถสังเคราะห์แสงได้ด้วยตัวเองและมีสีแดงเข้มจัด ด้วยฤทธิ์กัดกร่อนของน้ำในทะเลสาบสามารถทำลายผิวหนัง ขน และลูกตาของสัตว์ต่างๆ ที่ตกลงไปได้อย่างง่ายดายจนทำให้สัตว์เหล่านั้นเสียชีวิตในที่สุด

Raining Blobsฝนประหลาดตกลงมาเป็นน้ำมูกเมือกใสเละๆสุดสยอง


Raining Blobsฝนประหลาด
ตกลงมาเป็นน้ำมูกเยลลีเละๆสุดสยองที่สหรัฐอเมริกา

ชาวเมือง Oakville ในรัฐ Washington ประเทศสหรัฐอเมริกา ต่างต้องตกอยู่ในความประหลาดใจ เมื่อวันหนึ่งเกิดฝนตกขึ้น แต่แทนที่ฝนจะตกลงมาตามปกติในรูปแบบที่เป็นน้ำฝนมันกลับเป็น เมือกเหนียวๆคล้ายๆเจลวุ้น ลักษณะเหมือนน้ำมูกจำนวนนับไม่ถ้วนตกลงมาจากท้องฟ้า!!

เหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์นี้เกิดขึ้นในวันที่ 7 สิงหาคม 1994 ใน Oakville รัฐ Washington เวลาประมาณ 03:00 น. ฝนเริ่มตกปกคลุมทั่วทั้งพื้นที่ในระยะ 20 ตารางไมล์ แม้ว่าฝนจะเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคนในพื้นที่ แต่ทว่าเมื่อมันตกลงมา มันกลับเป็นสารอย่างหนึ่ง ลักษณะเป็นเมือกเหนียวๆ ที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต!!

เจ้าหน้าที่ David Lacey ซึ่งขณะนั้นเขากำลังขับรถลาดตระเวนกับเพื่อนๆตามปรกติ เมื่อฝนประหลาดตกลงมา เขาจึงเปิดที่ปัดน้ำฝน แต่แทนที่มันจะปัดออกเหมือนเช่นทุกครั้งมันกลับละเลงกระจกหน้ารถเขาซะจนมองไม่เห็นทาง เขาจึงตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปในปั้มน้ำมันและพยายามทำความสะอาดมันด้วยตนเองหลังจากที่สวมถุงมือยางเพื่อความปลอดภัย เขาอธิบายถึงสิ่งที่เขาพบว่า มันเป็นสารที่ อ่อนมากลักษณะเหมือนก้อนเจลลี่ใสๆขนาดใหญ่....

เจ้าหน้าที่ Dotty Hearn บอกว่า หลังจากที่ฝนหยุดตก เธอได้ก้าวออกไปข้างนอก และสังเกตเห็นสารเมือกกระจายไปทั่วทุกที่ ในตอนแรกเธอเห็นเจ้าเหมือกนี้มีวัตถุคล้ายๆ เม็ดข้าวขนาดเท่าลูกเห็บอยู่ภายใน และเมื่อเธอสัมผัสกับมัน เธอสังเกตเห็นว่า พวกมันมีรูปร่างเหมือนน้ำมูกใสๆของมนุษย์.... 

โดยช่วงบ่ายวันนั้น ทั้ง David Lacey และประชาชนอื่น ๆ อีกมากมายได้เกิดอาการแปลกๆ หลังจากที่สัมผัสเจ้าเจลลี่ประหลาดเหล่านี้ โดยที่พวกเขารู้สึกหายใจลำบาก วิงเวียนศีรษะ ตาพร่ามัวและคลื่นไส้
Beverly Roberts ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงได้กล่าวว่า ทุกคนในเมืองมีอาการเจ็บป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่ที่กินเวลาสองถึงสามเดือน

นอกจากนี้ทั้งแมวและสุนัขที่สัมผัสถูกเจ้าเมือกประหลาดต่างก็ล้มป่วยและเสียชีวิต  จึงมีการเก็บตัวอย่างเจ้าเมือกและส่งมันไปที่โรงพยาบาล ช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการตรวจสอบสารเคมีและพบว่ามันมีเซลล์เม็ดเลือดขาวของมนุษย์ แต่ไม่สามารถระบุว่ามันคืออะไรกันแน่... 

หลังจากนั้นตัวอย่างเมือกก็ถูกส่งไปที่กรมอนามัยแห่งสหรัฐอเมริกา...

เจ้าหน้าที่ Mike McDowell นักจุลชีววิทยาแห่งกรมอนามัยตั้งข้อสังเกตว่ามันเต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรียจำนวน 2 สายพันธุ์ รวมทั้งเชื้อที่อาศัยอยู่ในระบบย่อยอาหารของมนุษย์ จากผลการวิจัยของเขา จึงมีข้อสรุปแรกว่า มันน่าจะเป็นเป็นของเสียที่ตกลงมาจากเครื่องบินโดยสาร....

แต่กฎระเบียบของรัฐบาลกลางการบริหารการบินกำหนดไว้ว่า ก่อนจะทิ้งของเสียจากเครื่องบิน พวกเขาจะต้องย้อมสีฟ้าเสียก่อน ในขณะที่วุ้นเจลลี่ที่ตกลงมานั้น กลับมีรูปร่างที่ชัดเจนอย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนี้กฎระเบียบยังห้ามนักบินปล่อยของเสียในช่วงที่เกิดเหตุ จึงเป็นไปไม่ได้ว่า เจลลี่พวกนี้จะมาจากความผิดพลาดของนักบินในเวลานั้น...

หลังจากนั้นอีกประมาณ 1 ปี มีการวิเคราะห์ตัวอย่างที่ถูกเก็บแช่แข็งเอาไว้ โดย Tim Davis นักจุลชีววิทยาพบว่า มันเป็นสิ่งที่ประกอบไปด้วยเซลล์ที่มีความซับซ้อน และมีนิวเคลียสของสิ่งมีชีวิต นั่นหมายความว่าเจ้าเหมือกนี้เคยเป็นสิ่งมีชีวิตก่อนที่มันจะตกลงมาเป็นฝนประหลาด!! ทฤษฎีหนึ่งที่ถูกกล่าวถึงคือการทำลายซากแมงกระพรุน และกำลังจะนำมันไปทิ้งทางเครื่องบิน แต่เกิดอุบิตเหตุจึงทำให้มันร่วงลงมา แต่ทฤษฐีนี้ก็ถูกตีตกไป เพราะถ้ามันเป็นซากแมงกระพรุนตายมันจะต้องเน่าเสียและมีกลิ่น แต่เจ้าเมือกนี้มันกลับสดสะอาดมากกว่าที่จะเป็นซากสัตว์ตาย...

ทฤษฐีที่น่าเชื่อถืออีกอันหนึ่งคือ การทดลองอาวุธลับของทางรัฐบาล โดยชาวบ้านบางคนเชื่อว่า ทางกองทัพกำลังคิดค้นอาวุธชีวะเคมีชนิดใหม่ และนำมันมาทดสอบอย่างลับๆกับมนุษย์ แล้วกุข่าวลวงขึ้นมา แต่ทางกองทัพก็ออกมาปฐิเสธข่าวดังกล่าว ซึ่งนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา แม้จะมีการทดสอบทางชีวะเคมีใดๆเพิ่มเติม ก็ยังไม่พบว่า ในปัจจุบันจะมีใครสามารถผลิตเจ้าสารเมือกแบบนั้นได้อีก.....
ซึ่งถือได้ว่า ครั้งนั้นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เราพบกับมัน (หลังๆมาจะกลายเป็นฝนกบ ฝนเลือดแทน) และมันก็ยังเป็นสิ่งเร้นลับที่ยังหาคำตอบไม่ได้ มาจนถึงปัจจุบัน!!

รายการบล็อกของฉัน