ฝน เป็นรูปแบบหนึ่งของการตกลงมาจากฟ้าของน้ำ
นอกจากฝนแล้วยังมีการตกลงมาในรูป หิมะ เกล็ดน้ำแข็ง ลูกเห็บ น้ำค้าง
ฝนนั้นอยู่ในรูปหยดน้ำซึ่งตกลงมายังพื้นผิวโลกจาก เมฆ ฝนบางส่วนนั้นระเหยกลายเป็นไอก่อนตกลงมาถึงผิวโลก ฝนชนิดนี้เรียกว่า "virga" ฝนที่ตกลงมานั้นเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของ วัฏจักรของน้ำ ซึ่งน้ำจากผิวน้ำใน มหาสมุทร ระเหยกลายเป็น ไอ ควบแน่น เป็นละอองน้ำในอากาศ ซึ่งรวมตัวกันเป็นเมฆ และในที่สุดตกลงมาเป็นฝน ไหลลงสู่ แม่น้ำ ลำคลอง ไปสู่ ทะเล มหาสมุทร และ วนเวียนเช่นนี้เป็นวัฏจักรไม่สิ้นสุด
ปริมาณน้ำฝนนั้นวัดโดยใช้ มาตรวัดน้ำฝน โดยเป็นการวัดความลึกของน้ำที่ตกลงมาสะสมบนพื้นผิวเรียบ สามารถวัดได้ละเอียดถึง 0.25 มิลลิเมตร หรือ 0.01 นิ้ว
บางครั้งใช้หน่วย ลิตรต่อตารางเมตร (1 L/m² = 1 mm) ฝนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อทางด้านเกษตรกรรมเป็นอย่างมากทั้งในด้านบวกและลบ ซึ่งพืชทุกชนิดที่จะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ ก็ต้องอาศัยน้ำเป็นปัจจัยหลักในการดำรงชีวิต โดยที่ฝนตกจะเป็นการรดน้ำที่มีประสิทธิภาพสูงสุดทางธรรมชาติ ฝนตกในปริมาณที่มากเกินไปสามารถทำให้เกิดน้ำท่วมและส่งผลทำให้พืชบางชนิดล้มตายจากการเน่าเปื่อยอันเกิดจากเชื้อราได้
นอกจากนี้หากฝนไม่ตกตามฤดูกาลและเกิดภัยแล้งจากธรรมชาติยังสามารถทำลายพืชผลทางเกษตรกรรมได้ด้วยเช่นกัน วัฒนธรรมกับฝน มนุษย์มีทัศนคติต่อฝนที่แตกต่างกันตามวัฒนธรรม สังคม หรือเป็นความคิดส่วนบุคคล บางสังคมอาจจะเปรียบเทียบฝนกับความเศร้า ความรู้สึกหม่นหมอง บางสังคมอาจจะให้ความหมายของฝนเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ความชื่นชมยินดี หรือความเจริญงอกงาม บางครั้งการมีฝนตกเบาๆ หรือฝนตกหนักก็อาจถูกเรียกว่าเป็นความโรแมนติก
ข้อมูลอ้างอิงจาก Wikipedia
เรียบเรียงโดย menmen