ภูเขาน้ำแข็งยักษ์ใกล้ชนเกาะที่อยู่เพนกวิน-แมวน้ำ หวั่นเกิดหายนะระบบนิเวศ
หน้าผาตรงขอบภูเขาน้ำแข็งสูงเหนือระดับน้ำถึง 30 เมตร แต่ยังมีส่วนที่อยู่ใต้น้ำลึกลงไปอีกราว 200 เมตร
เครื่องบินของกองทัพอากาศสหราชอาณาจักร (RAF) ออกสำรวจและบันทึกภาพล่าสุดของภูเขาน้ำแข็ง A68a ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกถึง 4,200 ตารางกิโลเมตร โดยภูเขาน้ำแข็งนี้แตกตัวแยกจากทวีปแอนตาร์กติกา ออกมาล่องลอยอยู่ในมหาสมุทรได้เกือบ 3 ปีแล้ว
นักวิทยาศาสตร์คาดว่าภูเขาน้ำแข็ง A68a กำลังอยู่ในเส้นทางที่จะเข้าชนปะทะและเกยตื้นกับชายฝั่งเกาะเซาท์จอร์เจีย (South Georgia) ซึ่งจะทำให้ภูเขาน้ำแข็งปิดทางออกหากินในทะเลของฝูงสัตว์บนเกาะจำนวนมาก และอาจนำมาซึ่งหายนะครั้งใหญ่หลวงของระบบนิเวศแถบขั้วโลกใต้
ภาพล่าสุดที่ RAF บันทึกไว้ แสดงให้เห็นการแตกตัวเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอย่างรวดเร็วตรงขอบภูเขาน้ำแข็งบางส่วน รวมทั้งร่องรอยที่น้ำทะเลกัดเซาะฐานล่างของภูเขาน้ำแข็งจนเป็นโพรงลึก ซึ่งนักวิทยาศาสตร์จะนำข้อมูลล่าสุดนี้ไปวิเคราะห์ เพื่อประเมินสถานการณ์และทำนายถึงเส้นทางการเคลื่อนตัวของมันต่อไป
ขณะนี้ภูเขาน้ำแข็งยักษ์ซึ่งมีขนาดมหึมาเท่ากับเกาะเซาท์จอร์เจีย อยู่ห่างจาก "เกาะสวรรค์" ของบรรดาสัตว์แถบขั้วโลกใต้อย่างเพนกวินและแมวน้ำนับแสนตัวออกไปราว 200 กิโลเมตร
ภาพถ่ายดาวเทียมเผยให้เห็นว่าภูเขาน้ำแข็ง A68a (ซ้าย) มีขนาดใหญ่โตเท่ากับเกาะเซาท์จอร์เจีย (ขวา)
หาก A68a ชนเข้ากับชายฝั่งของเกาะในอีกหลายเดือนข้างหน้าจริง ก้อนน้ำแข็งที่กว้างใหญ่เท่ากับมณฑลหนึ่งของสหราชอาณาจักรนี้ จะติดตื้นอยู่ในตำแหน่งดังกล่าวเป็นเวลาอย่างน้อย 10 ปี ก่อนที่จะละลายหายไปได้หมด
บรรดานักอนุรักษ์หวั่นเกรงกันว่า สัตว์ที่อาศัยอยู่บนเกาะจะต้องอดอยากจนพากันล้มตายหรือถึงขั้นสูญพันธุ์ไป เนื่องจากภูเขาน้ำแข็งจะปิดทางออกหาอาหารในมหาสมุทรเป็นเวลานาน
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์บางกลุ่มมีความหวังว่ากระแสน้ำอาจช่วยพัดพาให้ภูเขาน้ำแข็งยักษ์ลอยอ้อมลงไปทางใต้ของเกาะ ก่อนที่จะวกขึ้นไปทางตะวันตกเฉียงเหนือและเจอเข้ากับกระแสน้ำอุ่น ซึ่งจะทำให้มันละลายตัวได้เร็วขึ้น แทนที่จะชนเข้ากับชายฝั่งด้านใต้ของเกาะโดยตรงอย่างที่หวั่นเกรงกัน
เกาะเซาท์จอร์เจียเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ในแถบขั้วโลกใต้จำนวนมาก