ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันพฤหัสบดีที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

เชื่อหรือไม่เมื่อ 50 ปีก่อน หิมะเคยตกที่เมืองไทยมาแล้ว

😀เชื่อหรือไม่? เมื่อ 50 ปีก่อน หิมะเคยตกที่เมืองไทยมาแล้ว
ค้นหา
Custom Search
ภาพบน - ถ่ายในวันรุ่งขึ้น
หลังหิมะตก 14 ชั่วโมง ที่เห็นเป็นพื้นขาวคือ หิมะอีก 38 ชั่วโมงต่อมา จึงค่อยละลายหมดไป 
8 ตุลาคม 2555
เมื่อเวลา 10.00 น.  นายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร เวรพยากรณ์อากาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ เปิดเผยว่าความกดอากาศสูงจากประเทศจีนปกคลุมภาคเหนือตอนบน ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคเหนือมีปริมาณและการกระจายของฝนลดลงและอุณหภูมิ จะลดต่ำลง 1-2 องศา โดยอุณหภูมิต่ำสุดเช้านี้วัดได้ 9.5 องศา ส่วนตัวเมืองเชียงใหม่วัดได้ 16.8 องศา

นายวรพจน์ กล่าวต่อว่าสำหรับที่มีการคาดการณ์ว่าในปีนี้จะหนาวเย็นและหนาวนานกว่าทุกปี และมีโอกาสเกิดหิมะตกในจ.เชียงรายและเชียงใหม่นั้น ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือได้มีการวิเคราะห์สภาพอากาศปีนี้อากาศ เย็นจากประเทศจีนเคลื่อนตัวมาไวกว่าทุกปี อุณหภูมิจะลดต่ำลงในทุกจังหวัดทั่วภาคเหนือ และจะหนาวหนักในเดือนธ.ค.และปีนี้จะเกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งหรือเหมยขาบ ขึ้นตามยอดดอยทั่วไปแบบยาวนานกว่าทุกปี

ส่วนการเกิดหิมะตก นั้นมีความเป็นไปได้เพราะประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2498 และปีพ.ศ.2501 เคยเกิดหิมะตกที่ จ.เชียงราย มาแล้วแต่ต้องมีเงื่อนไขคือต้องมีเมฆผลึกน้ำแข็ง ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของผลึกหิมะ และเมฆนั้นต้องอยู่ในระดับต่ำใกล้ชิดกับพื้นดินด้วยหรือระดับเยือกแข็ง ต้องอยู่ในระยะห่างพื้น ดินไม่เกิน 300 เมตร รวมถึงอุณหภูมิอากาศเหนือพื้นดิน ต้องต่ำเข้าใกล้ 0 องศาเซลเซียสแบบต่อเนื่อง แม้ประเทศไทยจะอยู่ในเขตโซนร้อน แต่ประเทศแอฟริกาที่อยู่ในเส้นศูนย์สูตร ก็สามารถเกิดหิมะตกได้ แต่ต้องรอดูสภาพอากาศในช่วงเดือนพฤจิกายน ธันวาคม และมกราคม แบบใกล้ชิดและอาจจะเกิดหิมะตกตามยอดดอยอินทนนท์ ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ก็เป็นได้

9 ตุลาคม 2555
 (ข้อมูลจากmatichon.co.th)
ภายหลังจากที่ นายวรพจน์ คุณาวิวัฒนางกูร เวรพยากรณ์อากาศศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคเหนือ    ระบุมีความเป็นไปได้ว่า  บนยอดดอยของจ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย
มีโอกาสที่จะเห็นหิมะตก
เนื่องจาก ฤดูหนาวปีนี้ภาคเหนือจะมีอากาศเย็นมากกว่าปกติ และหนาวนานกว่าทุกปี โดยเฉพาะในเดือนธันวาคมที่จะมีอากาศหนาวที่สุดนั้น

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม   รองศาสตราจารย์เสรี ศุภราทิตย์ ผู้อำนวยการศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยรังสิต   เปิดเผยว่า  ขณะนี้ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ปรากฎการณ์เอลนินโญ่  หรือ ปรากฎการณ์ที่อุณหภูมิน้ำทะเลรอบประเทศไทยสูงขึ้น ซึ่งจะทำให้สภาพอากาศร้อนและแล้ง    โดยหน่วยงานวิจัยของญี่ปุ่น คาดการณ์อุณหภูมิพื้นผิวน้ำทะเล ในช่วง 3 เดือนจากนี้ไป พื้นผิวน้ำทะเลรอบประเทศไทยจะมีอุณหภูมิสูงขึ้น และเมื่อน้ำทะเลร้อนขึ้น ก็จะส่งผลให้อากาศร้อนขึ้นตามไปด้วย และคาดการณ์อุณหภูมิพื้นดิน ในส่วนของประเทศไทยเป็นสีแดงหมายถึงอุณหภูมิจะร้อนขึ้นกว่าค่าเฉลี่ย ในช่วงฤดูหนาวนี้

ผอ.ศูนย์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศฯ กล่าวต่อว่า    ขณะที่ APEC CLIMATE CENTER ที่เป็นศูนย์ศึกษาภูมิอากาศของภูมิภาคเอเซีย ที่ตั้งอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ คาดการณ์ว่า อุณหภูมิพื้นดินของประเทศไทย ในช่วงฤดูหนาวนี้ แทนค่าด้วยสีแดง หมายถึงอุณหภูมิจะร้อนขึ้นกว่าค่าเฉลี่ย
เช่นเดียวกับนายสมชาย ใบม่วง รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา  ที่กล่าวยืนยันว่า   เป็นไปได้ยากมากที่จะเกิดหิมะตกที่จังหวัดเชียงราย ตามข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ เพราะประเทศไทยตั้งอยู่ในเขตร้อนชื้นของโลก

ภาพหิมะตกในประเทศไทยเมื่อปี พ.ศ. 2498 และปี พ.ศ.2501 
ที่ จ.เชียงราย
นี่เป็นภาพถ่ายในฤดูหนาวที่จังหวัดเชียงรายเมื่อ พ.ศ.2498 วันนั้นเป็นวันที่ 7 มกราคม เวลา 18.00 น.เศษ หลังจากฝนตกเล็กน้อย ลูกเห็บขนาดเล็กและเกล็ดน้ำแข็งบาง ๆ สีขาว ๆ คล้ายปุยหิมะก็ตกลงมาอย่างมากมายดูขาวโพลนไปทั่วแผ่นดิน
ภาพหิมะตกที่เชียงราย พ.ศ. 2498
ภาพหิมะตกที่เชียงแสน พ.ศ. 2501
ส่วนปีนี้ หรือ เร็วๆ นี้ ก็รอลุ้นกันนะคะ ว่าหิมะจะตกที่เมืองไทยหรือเปล่า?

รายการบล็อกของฉัน