ค้นหา

บทความที่ได้รับความนิยม

Translate

วันศุกร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

ทะเลสาบใต้น้ำแข็ง


ทะเลสาบใต้น้ำแข็ง
บนโลกเราที่เราอาศัยอยู่นี้ มีทะเลสาบขนาดใหญ่ที่ยังไม่มีมนุษย์คนไหนได้สัมผัสมาก่อน ฝังอยู่ใต้พื้นน้ำแข็งหนากว่า 4 กิโลเมตรบนใจกลางทวีปแอนตาร์กติกา บริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำสุดบนพื้นโลกต่ำกว่าจุดเยือกแข็งราวลบ 89 องศาเซลเซียส

ทะเลสาบแห่งนี้ยังคงสถานะของเหลวอยู่ ไม่ได้กลายเป็นน้ำแข็งเหมือนกับผิวด้านบน มันถูกซ่อนอยู่ภายใต้ชั้นน้ำแข็งมานานอย่างน้อย 13,000 ปีหรืออาจนานถึง 14 ล้านปีมาแล้ว
+++ สำรวจครั้งแรก
การสำรวจขั้วโลกใต้อย่างเป็นทางการเกิดขึ้นเมื่อปี 1957

โดยนักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียได้สร้างสถานีวิจัยขึ้นบนพื้นน้ำแข็งที่อ้าง ว้างห่างไกลจากแผ่นดินที่สิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ราว 1,000 กิโลเมตร พวกเขาตั้งชื่อสถานีวิจัยนี้ว่า "วอสทอก" (Vostok)
ต่อมาในช่วง ทศวรรษที่ 1970 อังกฤษได้ส่งทีมสำรวจมาทำแผนที่โดยใช้เครื่องบินติดเรดาร์สำรวจ เมื่อเครื่องบินบินมาใกล้กับสถานีวอสทอก ทันใดนั้นจอเรดาร์กลับแสดงเส้นแนวนอนเหมือนกับว่าสัญญาณกระทบเข้ากับผิวน้ำ พวกเขาจึงเดาว่าน่าจะมีน้ำซ่อนอยู่ใต้แผ่นน้ำแข็ง
แต่นั่นก็เป็นการคาดเดาเอาเท่านั้นหลักฐานที่ระบุว่าใต้แผ่นน้ำแข็งใจกลางทวีปแอนตาร์กติกามี แหล่งน้ำซ่อนอยู่เพิ่งจะพิสูจน์ได้เมื่อไม่กี่ปีมานี้เอง เมื่อดาวเทียมสำรวจตรวจพบทะเลสาบขนาดกว้างกว่า 10,000 ตารางกิโลเมตรจมอยู่ใต้พื้นน้ำแข็ง

นับได้ว่าเป็นทะเลสาบที่มีขนาด ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยทีเดียว เพราะขนาดของมันนั้นใกล้เคียงกับทะเลสาบออนทาริโอ (Ontario lake) ที่กั้นระหว่างประเทศสหรัฐกับประเทศแคนาดา ซ้ำยังมีความลึกกว่า 500 เมตร
จากการใช้เครื่องสแกนตรวจเช็กอุณหภูมิพบว่าน้ำในทะเลสาบมีอุณหภูมิประมาณ 10-18 องศาเซลเซียส ทำให้เชื่อได่ว่ามีแหล่งความร้อนใต้พื้นทะเลสาบอีกที
นอกจากนั้นแล้ว พื้นที่เหนือทะเลสาบยังถูกปกคลุมด้วยชั้นอากาศเป็นช่องว่างหลายพันฟุต กั้นชั้นน้ำแข็ง ซึ่งชั้นอากาศนี้เกิดขึ้นจากการที่ส่วนฐานของน้ำแข็งละลายเพราะถูกความร้อนที่กระจายออกมาจากทะเลสาบ

+++ พบสิ่งมีชีวิต
นักวิทยาศาสตร์ชาวรัสเซียได้เจาะเอาพื้นน้ำแข็งส่วน หนึ่งมาวิเคราะห์เมื่อหลายปีก่อน พวกเขาพบว่าในก้อนน้ำแข็งตัวอย่างนั้นมีสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วปะปนอยู่และเป็น สิ่งมีชิวิตที่ไม่เคยพบเห็นที่ไหนมาก่อนเลย
นักชีววิทยาเชื่อว่า การที่ทวีปแอนตาร์กติกาถูกแยกออกมาจากแผ่นดินส่วนอื่นเมื่อหลายพันล้านปี ก่อนนั้น ก่อนที่มนุษย์คนแรกจะกำเนิดขึ้น ได้มีสิ่งมีชีวิตกำเนิดขึ้นที่บริเวณทะเลสาบวอสทอกนี้ โดยที่พวกมันมีวิวัฒนาการอย่างเงียบ ๆ ค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปแตกต่างจากสิ่งมีชีวิตประเภทอื่น ๆ ที่อยู่ห่างไกลออกไป ทำให้พวกมันมีลักษณะแตกต่างจากออกไปจากสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ ที่เราเคยเห็น

สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นพัฒนาตัวเองภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำสุด ๆ และปราศจากซึ่งแสงอาทิตย์ที่จำเป็นสำหรับกระบวนการสังเคราะห์แสง ทำให้องค์การนาซ่า (NASA) สนใจเรื่องนี้เป็นพิเศษเนื่องจากมันมีสภาพใกล้เคียงคล้ายคลึงกับสภาพของดวงจันทร์ยูโรปา (Europa) ของดาวพฤหัส
สิ่งที่น่าตื่นเต้นไปกว่านี้ก็คือ
นักวิทยาศาสตร์พบสิ่งมีชีวิตบริเวณทะเลสาบวอสทอก
ถึง 33 ตระกูล สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นดำรงชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องอาศัยกระบวนการสังเคราะห์ แสง แต่พวกมันได้อาศัยไฮโดรเจนซัลไฟในน้ำเป็นแหล่งพลังงานหรือที่ศัพท์ทางวิทยา ศาสตร์เรียกว่า เคโนซินธิซิส (Chemosynthesis)
มันเป็นการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ที่น่าตื่นเต้นมากทีเดียว องค์การนาซ่า (NASA) ตัดสินใจที่จะนำยานสำรวจที่สร้างขึ้นมาสำหรับใช้สำรวจ ยูโรปา มาทดลองประสิทธิภาพโดยส่งมันมาเจาะพื้นน้ำแข็งที่อยู่ลึกลงไปถึงทะเลสาบมา วิเคราะห์
แต่แล้วจู่ ๆ National Science Foundation (NSF) หน่ยยงานที่รับผิดชอบด้านวิทยาศาสตร์ของสหรัฐที่เป็นผู้ให้ทุนรอนในการสำรวจ ครั้งนี้ก็สั่งระงับการขุดเจาะน้ำแข็งที่แอนตาร์กติกาซะเฉย ๆ เหตุผลน่ะหรือ เพราะพวกเขาพบว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตขนาดจิ๋วที่ติดมากับก้อนน้ำแข็งตัวอย่างนั้นมีอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตบนโลก!

+++ สนามแม่เหล็กประหลาด
เมื่อต้นปี 2013 ราว ๆ เดือนกุมภาพันธ์ นักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก NSF ให้มาสำรวจพื้นที่เหนือทะเลสาบวอสทอกเพื่อทำแผนที่ แต่สิ่งที่นักวิทยาศาสตร์เหล่านั้นพบนั้นเหนือความคาดหมาย เพราะพวกเขาพบว่ามีสนามแม่เหล็กประหลาดขนาดใหญ่ปกคลุมอยู่บริเวณชายฝั่ง ตะวันออกเฉียงใต้ของทะเลสาบ
ไม่มีใครรู้คำตอบว่าอะไรเป็นสาเหตุให้ เกิดสนามแม่เหล็กประหลาดนั้น ความเป็นไปได้อย่างหนึ่งก็คือการรวมตัวกันเป้นจำนวนมากของโลหะวัตถุ ซึ่งพบบ่อย ๆ ในการสำรวจซากปรักหักพังของเมืองโบราณ ยังกะนิยายแฟนตาซีแหนะ นี่แสดงว่ามีเมืองซ่อนอยู่ภายใต้พื้นน้ำแข็งหนา 4 กิโลเมตรหรือ 

สงสัยจะโม้ไปหน่อยมั๊ง
เดิมทีนักวิทยาศาสตร์เชื่อกันว่า การที่พื้นโลกแยกตัวออกจากกันเป็นทวีปต่าง ๆ นั้นค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปกินเวลานานหลาย(หมื่น)ปี แต่จากหลักฐานต่าง ๆ ที่ได้มากลับบ่งชี้ไปในทางตรงกันข้าม ดูเหมือนว่าเมื่อราว 13,000 ปีก่อนโลกเรานั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างกระทันหัน
สมัยก่อนทวีปแอนตาร์กติกานั้นเต็มไปด้วยป่าไม้ แต่แล้วแกนของโลกเกิดเปลี่ยนแปลงทันทีทันใด ทำให้ทวีปแอนตาร์กติกากลับตาลปัตรเป็นขั้วโลกใต้ กลายเป็นบริเวณที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดแห่งหนึ่งบนโลก

+++ เมืองใต้น้ำแข็ง
ความเชื่อที่ว่ามีเมืองโบราณซ่อนอยู่ใต้พื้นน้ำแข็ง ขั้วโลกใต้นั้นมีมา ตั้งแต่สมัยยุคนาซีเรืองอำนาจโน่นแหละครับ ลือกันว่าในช่วงทศวรรศที่ 1930 นาซีได้สร้างฐานทัพลับขึ้นที่บริเวณขั้วโลกใต้เพื่อใช้เป็นที่ติดต่อประสานงานกับพันธมิตรไม่ปรากฏสัญชาติ!

ต่อมาในปี 1947 นายพลริชาร์ด เบิร์ด (Richard byrd) แห่งราชนาวีสหรัฐ ได้ออกบินสำรวจทวีปแอนตาร์กติกา ไม่รู้เหมือนกันว่าแกไปเจออะไรเข้าพอกลับมาที่ฐานทัพก็ประกาศก้องว่า สหรัฐจำเป็นต้องสร้างแนวป้องกันข้าศึกที่อาจบุกมาทางอากาศจากขั้วโลกใต้
แทบจะทันทีที่นักวิทยาศาสตร์จากโคลัมเบียค้นพบสนามแม่เหล็กประหลาด JPL (Jet Pulse Laboratory) หน่ยวงานทางด้านอวกาศอีกหน่วยงานหนึ่งของสหรัฐ ได้สั้งให้ยุติการสำรวจทะเลสาบวอสทอก โดยให้เหตุผลว่า "เกี่ยวกับสภาพแวดล้อม" ต่อมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ โฆษก JPL ได้แถลงข่าวว่าตั้งแต่นั้เป็นต้นไปหน่วยงานรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (National Security Agency - NSA) จะเป็นผู้รับผิดชอบการสำรวจทะเลสาบวอสทอก
เล่นแถลงข่าวแบบนี้ก็เสร็จพวกขี้สงสัยสิ การวิจัยทางวิทยาศาสตร์มันไปเกี่ยวกัยหน่วยงานรักษาความปลอดภัยแห่งชาติได้ ยังไง ? ตานี้ก็เลยลือกันให้แซดว่ามีการพบเห็นยานอวกาศมนุษย์ต่างดาวบินว่อนอยู่ เหนือบริเวณทะเลสาบวอสทอก
+++ เชื้อโรคต่างดาว
เดือนธันวาคม 2000 สำนักข่าวเนชั่นแนลพับลิกเรดิโอ (National Public Radio) เสนอข่าวเรื่องที่จู่ ๆ นายแพทย์ประจำศูนย์แมคเมอร์โดเกิดป่วยรุนแรงอย่างกระทันหัน
ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์ 3 คนได้เสียชีวิตลงขณะปฏิบัติหน้าที่บนขั้วโลกใต้ แต่ไม่มีรายงานระบุสาเหตุการเสียชีวิต มันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลเกิดขึ้นที่นี่อย่างแน่นอน

ยังมีรายงานอีกว่านายแพทย์ที่ประจำสถานีอมันดสัน-สก้อทท์ (Amundson-scott) คนหนึ่งล้มป่วยด้วยโรคแทรกซ้อนที่มีสาเหตุมาจากก้อนนิ่ว รายงานระบุว่าผู้ที่ล้มป่วยและเสียชีวิตนั้นมีสาเหตุมาจากได้รับเชื้อโรคมา ก่อนถูกส่งมาปฏิบัติภาระกิจที่นี่ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น เจ้าหน้าที่ทุกคนจะต้องได้รับการตรวจสุขภาพมาก่อนที่จะถูกส่งมา เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นพาหะนำเชื้อโรคมาแพร่กระจายบนทวีปแอนตาร์กติกา
เป็นไปได้ไหมว่านักวิทยาศาสตร์พวกนั้นได้แอบทำการเจาะพื้นน้ำแข็งบริเวณทะเลสาบวอสทอกเพื่อเก็บตัวอย่างก้อนน้ำแข็ง และโดยไม่คาดฝันพวกเขาได้สัมผัสกับ "อะไรบางอย่าง" ที่มนุษย์ไม่มีภูมิคุ้มกัน "อะไรบางอย่าง" ที่ไม่มีอยู่บนผิวโลกมานานอย่างน้อย 13,000 ปีมาแล้ว!

รายการบล็อกของฉัน

  • Puya berteroniana ดอกไม้สีแปลก - Puya berteroniana ดอกไม้สีแปลก Puya berteroniana เป็นพืชพื้นเมืองในประเทศชีลิ ต้นมีความสูง 3-4 เมตร เติบโตได้ดีในพื้นที่ที่มีอากาศหนาว ที่ระดับความสูง 50...
    6 วันที่ผ่านมา
  • เรื่องลึกลับค้นพบบะหมี่โบราณ 4,000 ปี - *ค้นพบบะหมี่โบราณ 4,000 ปี* นี่คือภาพของเส้นบะหมี่สภาพสมบูรณ์ที่ถูกค้นพบลึกลงไปในพื้นดิน 3 เมตร ในแหล่งโบราณคดีล่าเจีย ตำบลหมิงเหอ อำเภอไห่ตง มณฑลชิงไ...
    3 เดือนที่ผ่านมา
  • พบหลักฐานการเดินทางของมนุษย์ต่างดาวผ่านด้วย วาร์ป - พบหลักฐานการเดินทางของมนุษย์ต่างดาวผ่านด้วย วาร์ป การศึกษาวิจัยใหม่ พบทฤษฎีที่ว่า “เครื่องขับเคลื่อนด้วย วาร์ป ” เป็นไปได้ โดยวิธีการเดินทางในอวกาศที่รวด...
    4 เดือนที่ผ่านมา
  • เรื่องแปลก น้ำทะเลสีแดงซัดชายฝั่งออสเตรเลีย - ค้นหา [image: Google] Custom Search เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนปีที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานว่า เกิด ปรากฏการณ์น่าทึ่งขึ้นในชายหาดบอนได เมือ...
    2 ปีที่ผ่านมา
  • ปรากฏการณ์รุ้งหมอก - ปรากฏการณ์รุ้งหมอก Fog bow เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากละอองน้ำมีขนาดเล็กมาก โดยละอองน้ำนั้นจะต้องมีขนาดที่เล็กกว่า 0.05 มิลลิเมตร และเนื่องจากละอองน้ำนั้นมีข...
    3 ปีที่ผ่านมา